ปีที่แล้วบีได้มีโอกาสไป
Belfast เมืองหลวงของ
ประเทศไอร์แลนด์เหนือ จุดประสงค์หลักแน่นนอนคือไป
ตามรอยสถานที่ถ่ายทำ "Game of Thrones"
เวลาเริ่มและจุดนัดพบขึ้นรถบัสทัวร์: ทัวร์เริ่ม 9 โมงเช้า ควรไปก่อนอย่างน้อย 15 นาที ไกด์นำทัวร์จะยืนรอเตรียมเช็คชื่อเพื่อขึ้นรถบัสที่จอดอยู่ข้างหน้า
Visit Belfast Tourist Office 9 Donegall Square, Belfast, BT1 5GJ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองตรงข้าม
Belfast City Hall หาง่าย ใช้
Google Maps นำทางไปค่ะ
ระยะเวลาในการทัวร์: ประมาณ 9 ชั่วโมง ไป-กลับ
ราคาตั๋ว: สำหรับผู้ใหญ่อายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 35 ปอนด์ หรือ ประมาณ 1,500 กว่าบาทราคาตั๋วสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี 20 ปอนด์ หรือ 800 กว่าบาท
เมือง Belfast คือหนึ่งในหลายสถานที่ถ่ายทำหลักของซีรี่่ย์มหากาพย์ชุดนี้ ซึ่งไกด์นำทัวร์ทุกคนคือชาว Belfast ที่เป็นนักแสดงสมทบในเรื่่อง Game of Thrones เพราะฉะนั้นระหว่างการเดินทางไกด์ก็จะคอยเล่าเรื่องซุปซิบในกองถ่ายเกี่ยวกับนักแสดงพร้อมทั้งชี้จุดถ่ายทำต่างๆ คนที่มาร่วมทัวร์เกือบทั้งหมดคือติ่ง
Game of Thrones รวมถึงบีเองด้วย พูดเลยว่าเอนจอยทัวร์นี้มาก
ได้ฟังเรื่องขำๆ กับดูวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามใน Belfast
ถือว่าเป็นอะไรที่ดีและฟินมาก
เกล็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ Game of Thrones ที่ไกด์ทัวร์เล่าให้ฟังระหว่างพาทัวร์
กฎเกณฑ์การคัดเลือกนักแสดงสมทบในเรื่อง Game of Thrones
มีข้อเดียวคือ ต้องเป็นคน Belfast ทั้งหมด ซึ่งไกด์บอกว่าเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง
ทุกคนที่เขารู้จักล้วนแต่เป็นนักแสดงสมทบในเรื่อง Game of Thrones กันหมดและทุกคนจะถูกจับเซ็นสัญญาห้ามสปอยล์เนื้อเรื่อง ก่อนซีรี่ย์ออกฉายจริง
ซึ่งนักแสดงสมทบทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
แลกกับการได้รู้เนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบของ Game of Thrones
ก่อนคนอื่น อืมก็คุ้มดีเหมือนเนอะ
Kit Harrington หรือ John Snow ขวัญใจของสาวๆ เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีว่า Belfast
เป็นเมืองที่น่าเที่ยวถ้าอยู่ประมาณ 2-3 วัน แน่นอนว่าคนท้องถิ่นหลายคนเข้าใจผิดมองว่าเขาว่า Belfast
เป็นน่าเบื่อแบบอ้อมๆ เป็นเหตุให้ชาว
Belfast
หลายคนรู้สึกผิดหวังจนเป็นกระแสข่าวใหญ่ คนท้องถิ่นเริ่มล้อเลียนสัดส่วนและความสูงที่ไม่ค่อยจะสูงเท่าไหร่ของ
Kit Harrington ว่าตัวจริง He is Tiny! Tiny! Tiny!
ไม่ได้ดูเท่เหมือนที่เราเห็นกันในจอนะจ๊ะ หลังจากนั้นไม่นาน Kit Harrington ก็รีบออกมาขอโทษผ่านสื่อว่าสิ่งที่เขาพูดไปแค่อยากเล่นมุขเกี่ยวกับเมืองนี้แบขำๆ ไม่ได้ตั้งใจว่าร้ายเพราะ Belfast ก็เหมือนบ้านหลังที่ 2 ของเขาที่อยู่มา 5 ปี และเขารัก Belfast มาก เป็นคนดังนี่ก็ลำบากพูดอะไรนิดๆหน่อยๆไม่เข้าหูแฟนก็โดนด่าไปอีก
ปกติ Game of Thrones จะเริ่มถ่ายทำที่ไอร์แลนด์
ช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม แต่ช่วงที่บีไปเมื่อปีที่แล้ว
ไกด์เล่าว่าทางผู้กำกับประกาศเลื่อนการถ่ายทำ Game of Thrones ซีซั่น 7
ที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้
ออกไปเป็นเดือนกันยายนเพื่อที่จะให้ได้ซีนหนังที่ดูหนาวเหน็บสมจริง
แอบเซ็งไม่งั้นคงได้เห็นทีมงานระหว่างทัวร์
Belfast และเมืองเล็กๆข้างเคียงในไอร์แลนด์เหนือ เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักที่ราคาถูกที่สุด ถูกกว่าประเทศถ่ายทำอื่นๆยุโรป Game of
Thrones ด้วยเหตุผลหลักๆเลยคือ
เพราะฉะนั้น ผู้กำกับและทีมงานจะพยายามถ่ายซีนต่างๆ ใน Belfast
ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งไกด์แอบเล่าให้ฟังว่าหลาย
ครั้งก็เห็นถ่ายทำตามต้นไม้ภูเขาจุดเดิมๆ
แล้วค่อยไปใส่ซีจีทีหลังให้เหมือนเป็นสถานที่ใหม่ คน Belfast เขารู้กันหมด
จุดแรกที่มาหยุดแวะถ่ายรูปคือ Carnlough Harbor
Carnlough Harbor สถานที่ถ่ายทำฉากใน Game of Thrones ซีซั่น 6 Episode 7 "A Broken Man". จุดที่บียืนคือจุดที่ Arya Stark กระโดดน้ำหนีหลังโดนแทงบาดเจ็บสาหัส
บางสถานที่ถ่ายทำก็ไม่ได้แวะลงเพราะไม่ใช่ที่ๆ จะเข้าไปเดินได้เช่นตรงนี้ไกด์บอกว่าเป็นอีกจุดที่ใช้ถ่ายทำ Game of Thrones ซีซั่น 5 ซีนที่ Daenerys Targaryen ถูกห้อมล้อมโดยเผ่า Dothraki รีบกดถ่ายจากบนรถบัสภาพเลยเบลอต้องขอโทษด้วย
Cushendun
Cushendun Caves เป็นถ้ำที่ Stannis Baratheon สั่งให้ Davos พา Melisandre ไปคลอดเงาต่อมาถูกส่งไปฆ่า Rently Baratheon
Carrick-a-Rede Rope Bridge
จุดที่ถ่าย Game of Thrones ไม่ใช่สะพานเชือกที่ใครๆ ก็ต้องมาเยี่ยมชมแต่เป็นลานจอดรถบริเวณใกล้เคียงซึ่งเดี๋ยวจะได้เห็นกันในภาพ แต่จะไม่ให้พูดถึงสะพานเชือกเลยก็ไม่ได้เพราะมาเที่ยวไอร์แลนด์ทั้งทีก็ต้องมาเก็บตกเดินเล่นถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแบบนี้บ้าง
นอกจากสะพานเชือกที่เป็นไฮไลท์ของที่นี้แล้ว ธรรมชาติรอบๆ ยังสวยระดับเหมือนเดินอยู่สวนบนสววรค์ อากาศดีลมพัดเย็นสบายเห็นดอกไม้และหญ้าสีเขียวเคลื่อนไหวไปมา มันสงบสวยงาม ต้องลองไปเห็นเองกับตาแล้วจะเข้าใจ
จะมีอะไรดีไปกว่าการได้มาสัมผัสธรรมชาติกับอากาศบริสุทธิ์ปลอดโปร่ง สูดหายใจได้เต็มปอด
ถ่ายวิวภูเขาและทะเลไว้เพียบ
Carrick-a-Rede Rope Bridge
เดินมาสักพักก็ถึงสะพานเชือกที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะเล็กที่ตั้งอยู่กลางทะเล
สวยงามมากๆ ไม่แปลกใจที่คนต่อแถวเข้าคิวข้ามกันเป็นชั่วโมง
ถึงเวลาเดินกลับ ระหว่างทางก็ยังคงเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันชุ่มชื่นสวยงาม มองไปแล้วจรรโลงใจ
Larrybane Quarry ลานจอดรถใกล้ๆ Carrick-a-Rede Rope Bridge ใช้เป็นที่ถ่ายฉากค่ายของ Rently Baratheon ใน Stormlands
นอกจากจะได้ไปสถานที่ถ่ายทำ
Game of Thrones แล้วยังได้ไปเดินชมมรดกโลกอย่าง
Giant's Causeway ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อประมาณ 60 ล้านปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดและลาวาที่ระบายออกมาเย็นตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานไปทำปฎิกริยากับหิน Basalt ที่ยื่นออกมาในหมาสมุทร ทำให้หินเหล่านี้แตกเป็นเหลี่ยมเสาราว 4 หมื่น แท่ง เป็นความงามตามธรรมชาติทีน่าทึ่งมากจริงๆ
ทั้งหมดที่เห็นในภาพคือหิน Basalt ที่แตกเป็นเสาเหลี่ยม สวยงามตามธรรมชาติ
เดินมาทั้งวันขอนั่งพักนิดนึง
วิวชายฝั่ง
สิ่งแวดล้อมรอบๆ Giant's Causeway
Dunluce Castle ถูกเปลี่ยนให้เป็น House of Greyjoy
ปราสาทปรักหักพังนี้ถูกสร้างขึ้นบนหน้าผาตั้งแต่สมัย
Medieval
และสถานที่สุดท้ายที่ไกด์พามาแวะถ่ายรูปก็คือ Dark Hedges หรือ King's Road
ถ่ายทำ Game of Thrones ซีซั่น 2 ตอนที่ Arya Stark หลบหนีออกจาก King's Landing ถนนเส้นนี้มีต้นไม้ปกคลุมดูคล้ายกับถ้ำป่าพิศวง แน่นอนว่าทีมงานใช้ซีจีใส่ต้นไม้เข้าไปเพิ่มให้ดูสมจริง
จำได้ว่าวันนั้นมีต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้นถูกฟ้าผ่าหักลงมา
กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ เพราะ Dark Hedges คือสถานที่ท่องเที่ยวในไอร์แลนด์เหนือที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุด
ไม่น่าแปลกใจก็เพราะว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ Game of Thrones นี่แหละ
ไปถึงไกด์ก็เอาผ้าคลุมกับดาบของ House of Stark ออกมาให้ใส่ถ่ายรูปตอนเห็นก็ลังเลใจจะใส่ไม่ใส่ดีเพราะถ้าใส่คงเป็นอะไรที่เนิร์ดมาก
แต่ด้วยความเป็นติ่งก็แบบขอสักหน่อนเหอะ! มาครั้งเดียวไม่มีไรจะเสียแล้ว ณ จุดนี้คือเต็มที่!
ขำตัวเองเหมือนกันดูเป็นติ่งเกรียนแฟนพันธ์ุแท้มาก แต่ที่ฮาสุดคือตอนที่กำลังเดินๆ หาที่ถ่ายรูป อยู่ๆ ก็มีทีมงานข่าว BBC เดินเข้ามาบอกว่าเขามาทำข่าว Dark Hedges แล้วเห็นเราดูเป็นแฟนพันธ์ุแท้ Game of Thrones ใส่ชุดจัดเต็มเลยอยากขอสัมภาษณ์ สรุปคือปฎิเสธทีม BBC ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เพราะต้องรีบไปขึ้นรถทัวร์กลับ Belfast
เมื่อกี้ใครดู Game of Thrones ซีซั่น 7 ตอนสุดท้าย "The Dragon and The Wolf" แล้วบ้าง? มีอะไรพีคๆ ให้ติดตามต่อเม้าท์ต่อเพียบเลย! ไม่สปอยล์ละกันเนอะ
xx