Tuesday, October 3, 2017

"Please Make Yourself at Home" by Juli Baker and Summer at The Jam Factory


"Please Make Yourself at Home" by Juli Baker and Summer  
Date: September 8th - October 8th, 2017
Operating hours: Daily 10.00 A.M. - 8.00 P.M.
Venue: The Jam Factory 41/1-5 Charoen Nakhon Rd, Khlong San, Bangkok 10600


Please Make yourself at Home is the second solo exhibition of Juli Baker and Summer (Chanaradee Chatkul Na Ayutthaya) a collection of her colorful art which represents a series of her comfort zone. Pretty much everything that makes she feels at home with lovely music--A hard day's night by The Beatles, Suis-Moi by Camille, and Tire Swing by Kimya Dawson playing in the background.

ล่าสุดบีได้ไปชมนิทรรศการ Please Make yourself at Home (ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน) ของ Juli Baker and Summer หรือ ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา ที่รวบรวมผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ภาพวาดไปจนถึงงานเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใสและบ่งบอกถึงคอมฟอร์ตโซนของศิลปิน Juli Baker and Summer อะไรที่รู้สึกปลอดภัยสบายใจเหมือนอยู่กับบ้านและเพลงสากลเพราะๆ ช่วยสร้างบรรยากาศอย่าง A hard day's night ของ The Beatles, Suis-Moi ของ Camille และ Tire Swing ของ Kimya Dawson ที่เปิดคลอไปเรื่อยๆ เปลี่ยนมูดมืดครึ้มในวันฝนตกให้กลับมาสดใสทันทีที่ได้มอง ใครชอบศิลปะสีสันสดใสห้ามพลาด มาช่วยกันสนับสนุนศิลปินไทยกันดีกว่า!

 

ไม่มีอะไรมากก็แค่ทำตัวสบายๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน

 

อะไรก็ไม่มีค่าถ้าคุณไม่มีความสุข


 

Lovely corner where you can just feel relax, watch TV, draw or write something and put it on the wall. เดินรอบๆครบ สุดท้ายก็มานั่งผ่อนคลายบนเบาะรองนั่งสีสันสดใส ดูทีวี ดูภาพวาดต่างๆ เพลินตาเพลินใจ แถมให้เรามีส่วนร่วมกับนิทรรศการนี้โดยการวาดภาพหรือขีดเขียนอะไรก็ได้ตามใจชอบแล้วเอาไปแปะบนผนัง สบายๆกันเองสุดๆ



 
Seeing vibrant colors always improved my mood
ทุกครั้งที่เห็นสีสันสดใสมันทำให้อารมณ์เราดีขึ้น
 



Have a wonderful day!

xx

Saturday, September 30, 2017

Friday, September 8, 2017

How I feel about fashion


6 ปีมาแล้วตั้งแต่เริ่มทำบล็อก จะว่าไปบล็อก Style Voyage ของบี จริงๆ มีจุดเริ่มต้นมาจากการอยากเข้ามาทำงานนสายแฟชั่นในประเทศไทย แต่ไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยตรงแล้วก็ไม่ได้รู้จักหรือมีเส้นสายกับใครในวงการนี้เลยสักคน มันเป็นพลังความรักแฟชั่นและสไตล์ที่สะสมมาตั้งแต่เด็กล้วนๆ ก็เลยพยายามหาพื้นที่เล็กๆ ที่เราสามารถมีอิสระในการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์กับสไตล์ที่เป็นตัวเรา หลักๆ ผ่านการแชร์ภาพสไตล์การแต่งตัวของตัวเองในแต่ละวัน สำหรับบีชอบแต่งตัวไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือฉาบฉวยมันทำให้เรามีความมั่นใจขึ้นและถ่ายทอดความเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น เป็นการเสริมสร้างบุคลิกที่ดีให้กับตัวเราเองและผู้คนที่พบเห็น ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนแถมยังสร้างความสวยงามให้โลกของเราอีกด้วย แฟชั่นไม่ได้ฟังดูไร้สาระไปซะทุกอย่างหากเรารู้จักเสพสินค้าเหล่านี้ให้ถูกหลักเเละเหมาะสมกับตัวเรา ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าหรูหราตามกระแสแฟชั่นตลอดเวลา แต่เน้นเป็นการนำเสื้อผ้าที่เก็บอยู่ในตู้กลับมาใส่ใหม่ด้วยการมิกซ์เเอนด์แมชท์ทั้งเสื้อผ้าใหม่และเสื้อผ้าเก่ารวมกัน ลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เอาผ้าพันคอมาผูกเป็นเสื้อเป็นเข็มขัด เอาเสื้อเชิ้ตมาใส่กลับด้านเกิดเป็นลุคใหม่ขึ้นมา ยิ่งลองอะไรใหม่ๆ เราก็จะรู้จักวิธีใช้เงินให้เหมาะสมในการซื้อเสื้อผ้าและของแฟชั่นเช่นเลือกซื้อของที่เรามองว่านำกลับใช้หรือสวมใส่ได้อีกบ่อยๆ แทนที่จะวิ่งตามกระแสเห็นดาราคนนู้นใช้คนนี้ใช้แล้วต้องมีบ้าง จนหลายคนต้องหมดเงินที่หามาแทบตายกับการซื้อเสื้อผ้าราคาแพง สุดท้ายเอากลับมาใส่ได้แค่ครั้งเดียว เสียดายเงินค่ะพูดเลย

ว่าแล้วก็ลงลึกไปถึงเรื่องที่ว่าหลายคนมองว่าของแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นเป็นเรื่องดูไร้สาระ กลายเป็นว่าคนที่รักแฟชั่นการแต่งตัวดูหมกหมุ่นอยู่กับแค่ความสวยงามไปวันๆ มันก็แล้วแต่คนจะคิดไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูก แต่สำหรับคนที่รักและเสพแฟชั่นจริงจัง "สินค้าแฟชั่น" หรือ "แบรนด์เนม" มันมีแก่นสารและน่าหลงไหลมากกว่าแค่คำว่าสวยงาม "สวยงาม" อย่างเดียวมันฉาบฉวยมองไปสักพักก็ต้องเบื่อ แต่อยากให้มาโฟกัสศึกษาและเสพคุณค่าที่แท้จริงของวงการแฟชั่น ตั้งแต่เบื่้องหลังการผลิตจนถึงการวางจำหน่ายและโปรโมท แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นหรูที่หลายคนเก็บเงินเป็นเดือนๆ เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของ มันมีคุณค่ามากกว่าคำว่าหรูหราไฮโซ มันคือ "ศิลปะ" ความคิดสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดออกมาบนผืนผ้า ต้องอาศัยไอเดีย ฝีมือและความชำนาญ กว่าจะได้ชุดหนึ่งชุดออกมาวางจำหน่ายไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งต้องตัดเย็บอยู่หลายชั่วโมงหรือเป็นวัน เพื่อให้เสื้อผ้าออกมาเนียบที่สุด เพราะฉะนั้นสินค้าแฟชั่นหรูถึงได้มีราคาสูง และก็ต้องอาศัยมาร์เก็ตติ้งเป็นกระบอกเสียงในการช่วยโปรโมทให้ผู้คนเห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงของสินค้าที่ผ่านกระบวนการดีไซน์และผลิตด้วยความพิถีพิถันเหล่านี้ ทั้งยังกระตุ้นความรู้สึกให้อยากจับจ่ายสินค้ามาครอบครอง มันเป็นวัฎจักรของแวดวงธุระกิจ เพื่อการร่วมกันสนับสนุนอนุรักษ์พลังศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมแฟชั่นให้ยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ บีไม่มีเจตนาเขียนเพื่อโปรโมทให้คนหันมาบ้าซื้อของแฟชั่นแบรนด์เนม เพราะตัวบีเองถึงจะทำงานอยู่ในวงการนี้ก็ไม่ได้มีกำลังซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้ตลอดเวลา อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่เราเลือก เลือกอย่างชาญฉลาด เลือกในสิ่งที่ทำให้เราแฮปปี้และไม่ไปเดือดร้อนใครดีที่สุด ที่พูดมาทั้งหมดอยากให้คนที่อาจจะไม่ได้เสพแฟชั่น ได้เข้าถึงความคิดของคนเสพแฟชั่น สุดท้ายอยากบอกทุกคนว่าหากคุณชอบอะไรสักอย่าง อย่าหลงเสพสิ่งเหล่านั้นเพียงแค่รูปลักษณ์ผิวเผิน แต่อยากให้ค้นคว้าศึกษาให้ครบรอบด้านและเข้าถึงแก่นแท้ แล้วคุณจะรู้ว่าหลายๆ อย่างในโลกนี้มีค่ากว่าที่เราเห็นเพียงภายนอก


Outfit Details 
Military Green Dress Coat / Zara Slip Dress / See Through Blouse / Gucci Belt / Lace-Up Shoes / Boyy Bag

xx

Thursday, September 7, 2017

Unique Moment at Mademoiselle Longchamp Apartment, Siam Paragon

Wearing Jumpsuit from Pomelo

Liberated, Carefree, and Sensual. Mademoiselle Longchamp Apartment brings you the real atmosphere of Parisianing. Visit the exhibition for exclusive Parisian Chic experience at Siam Paragon, 1st floor. Now till September 13th

Mademoiselle Longchamp Apartment อพาร์ทเม้นท์จำลอง 4 ห้องสไตล์สาวปารีเซียง ที่บ่งบอกถึงนิยาม Liberated, Carefree, Sensual ของกระเป๋ารุ่น Mademoiselle Longchamp เยี่ยมชมและสัมผัสเสน่ห์ความงดงามแบบฝรั่งเศสกับอพาร์ทเม้นท์จำลอง ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 13 กันยายน ณ สยามพารากอน ชั้น 1
 
The new Mademoiselle Longchamp Bag synonymous with Liberte, Spontaneite, and Sensualite
Being Parisian for a day
Scan QR code and enjoy Mademoiselle Longchamp Electric French Playlist

B' Style Voyage
xx